เครื่องมือเครื่องใช้














เครื่องมือเครืองใช้



เครื่องใช้ในครัว


เครื่องใช้ในครัว นอกจากมีหม้อ มีกระทะ หลายชนิดและหลายรูปทรง เช่น เผล้ง (ใช้ใส่ข้าวสาร ใส่น้ำกิน) และเป็นเครื่องปั้นดินเผาตามแบบโบราณแล้วชาวปักษ์ใต้ยังมี สวดลักษณะใกล้เคียงกับ หวด” ในภาคกลาง คือ ลักษณะคล้ายเป็นหม้อ ๒ ใบ แฝดติดต่อกัน ตรงกลางจึงคอดกิ่ว ส่วนบนเรียก ตัวผู้” ส่วนลูกล่างเรียก ตัวเมีย” ตรงคอดกิ่วนั้นเองมีตะแกรงหรือ เพดาน” เจาะรูเล็กๆ หลายรูสำหรับให้ไอน้ำจากด่านล่างระเหยขึ้นมาได้ เพราะเป็นหม้อสำหรับนึ่งข้าวเหนียวและอื่นๆ
          จำพวก หวัก” (จวัก) ใช้ตักแกง แล่ง (ใช้ตวงข้าวสาร) ป้อย (ใช้ตวงข้าวสารใส่หม้อหุงข้าว) โหลก (กะโหลก) ใช้ใส่ของขนาดเล็กๆ จิปาถะ พรกเคย (ใช้ละลายกะปิ) พรกลอด (ทำขนมลอดช่อง) พรกลา (ทำขนมลา) "ด้ง"(กระด้ง)ใช้ฝัดข้าวฯลฯ อุปกรณ์เครื่องใช้เหล่านี้มักทำด้วยกะลามะพร้าว (พรก) เนื่องจากภาคใต้มีสวนมะพร้าวทั่วไปหาได้ง่ายไม่มีวันจบสิ้น และถือเป็นวัสดุประเภท สารพัดประโยชน์” เลือกลูกแก่ๆ ขัดให้เป็นมันดำ มีการตกแต่งยิ่งเป็นลวดลายสวยงามน่าใช้และมีคุณภาพคงทนดี 

หวัก

ด้ง
เครื่องมือจับปลา

เครื่องมือจับปลา มีมากหมายหลายอย่างทำด้วยไม้ไผ่เป็นหลัก เช่นสุ่ม (จับปลา) นาง (ชนาง ก็เรียกใช้ช้อนดักจับกุ้งปูปลาขนาดเล็ก) เชงเลง (ปากกว้างหางเรียวใช้ดักปลา) เจ้ย (ตะแกรง ใช้ตากกุ้งปลา ตากพริก ร่อนข้าวสาร) นั่งได้นอนได้ (หรือหญดก็เรียก คือ อีจู้ทั้งแบบตั้งและแบบนอนใช้ดักปลา) โลด – เล่ (เครื่องดักปลาแบบให้ปลากระโดดขึ้นมาค้างบนรางร้าน) ส้อน (รูปร่างเล็กยาวคล้ายกระบอกกรวยใช้ดักกุ้งปลาขนาดเล็ก) ไซ (มีหลายแบบเช่น ไซลาว มีรูปร่างเล็กยาวใช้ดักกุ้ง ไซดักปลา ไซหัวหมู) รูปร่างของไซแตกต่างกันไปตามท้องถิ่น แต่ส่วนที่เหมือนกันคือมี งา” อยู่ข้างในดังคำปริศนาคำทำนายที่ว่า ช้างตายในนางอกงาในพุง” ตะข้องหรือ “ข้อง” สำหรับขังปู ปลา กุ้ง หอย มีหลายชนิดและลางชนิดก็เรียกชื่อกับการใช้งานต่างออกไป เช่น จง หรือข้องจงมีขนาดเล็กทรงชะลูดปากเรียว (ใช้ใส่กุ้ง ปู ปลา) ข้อง (ทั่วไปใช้ใส่หอย ปู ปลา) ข้องไหล (ใช้ดักปลาไหล) ไซขังปลา (ไซทนก็เรียก) ข้องบา (คือตะข้องแบบมีบ่า ๒ ข้าง มักมีขนาดใหญ่ ใช้ใส่ปลา) ข้องนั่งได้ คืออีจู้นั่นเอง

สุ่ม


เครื่องใช้ทั่วไป

ผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว

ประวัติความเป็นมา 
            ก่อนปี พ.ศ. 2525 นายปลื้ม ชูคง ได้เริ่มงานหัตกรรม โดยได้ทำเครื่องมือเครื่องใช้ภายในครัวเรือน เครื่องมือเพื่อการเกษตร โดยนำไปขายตามหมู่บ้านและงานวัดทั่วไปพ.ศ.2525ได้เริ่มจัดทำผลิตภัณฑ์ กะลามะพร้าว โดยทำเป็นเครื่องใช้ในครัวเรือนไม่กี่ประเภท เช่น ทัพพี ตะหลิว ตะบวย จวัก พ.ศ.2526 หน่วยงานทางราชกาลหลายหน่วย ได้เข้ามาแนะนำส่งเสริมอุตสาหกรรม ในครัวเรือนนายปลื้ม ได้เป็นวิทยากรแนะนำให้ความรู้และชักจูงให้ประชาชนในหมู่เข้ามาร่วมมือสร้างผลงานหัตกรรม ผลิตภัณจากกะลามะพร้าวประชาชนเริ่มตื่นตัวและเล็งเห็นความสำคัญในงานอาชีพหัตกรรมกะลามะพร้าวเนื่องจากงานประเภทนี้ประชาชนเคยได้ทำใช้ในครัวเรือนมาก่อน พ.ศ.2528-2529 ได้รวมกลุ่มสมาชิก ฝึกทำผลิตภัณฑ์กะลามะพร้าว16คนปี2530 ขยายมากขึ้นเป็น 25 คนได้ร่วมกันผลิตส่งออกจำหน่าย มียอดขาดมาขึ้นกว่าปีก่อนๆ ปี 2531 สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดพัทลุงให้ความช่วยเหลือการจัดสรรเครื่องมือการผลิต ปี 2533 มีการจักส่งผลิตภัณฑ์กะลามะพร้าวไปจำหน่ายต่างประเทศ มีการจัดตั้งกลุ่มอย่างเป็นรูปธรรมมีคณะกรรมการดำเนินงานนายปลื้มเป็นประธาน และผู้ประสานงานติดต่อการค้าขาย ปัจุบันสมาชิกกลุ่มหัตกรรมเพิ่มขึ้นถึง200 กว่าคน จำนวน63 ครัวเรือน ได้ทำผลิตภัณจากกะลามะพร้าวออกจำหน่ายทั้งประเทศภายในประเทศแต่ละประเทศ 

ผลิตภัณฑ์กระจูด
ประวัติความเป็นมา 
          ในหมู่บ้านมีทุ่งกระจูด( ชื่อท้องถิ่น ) ขึ้นเองตามธรรมชาติเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านได้นำมาสานเป็นเสื่อไว้ใช้เองและจำหน่ายแต่ทำในลักษณะต่างคนต่างทำ ต่อมากลุ่มพัฒนาชุมชนได้รวมกลุ่มสมาชิกขึ้นและประสานงานกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมมาทำการสอนแปรรูป ตัดเย็บเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น หมวก กระเป๋า แบบต่างๆ ของใช้เบ็ดเตล็ด ที่รองแก้ว ที่รองจาน ตู้เสื้อผ้า แฟ้ม ฯลฯ 


ผลิตภัณฑ์จากต้นเตย

ประวัติความเป็นมา 

       ต้นเตย เป็นต้นไม้ที่คนในชุมชนนิยมปลูกกันเป็นจำนวนมาก ประกอบกับปัญหาเศรษฐกิจเริ่มมีมากขึ้น มีปัญหาการว่างงานและบางส่วนว่างจากการประกอบอาชีพหลักจึงเกิดแนวคิดที่จะหารายได้เสริม โดยใช้วัสดุที่มีอยู่ในท้องถิ่น และเป็นงานฝีมือที่ใช้เส้นใยจากธรรมชาติ คือ ใบเตยหนาม หรือปาหนัน 




ผ้าบาติก
ประวัติความเป็นมา
          ตำบลอ่าวนาง โดยเฉพาะบริเวณชุมชนบ้านคลองแห้งจะมีธุรกิจเพื่อการท่องเที่ยวบริเวณริมหาดอ่าวนาง และในช่วงฤดูท่องเที่ยวบริเวณริมหาดอ่าวนาง และในช่วงฤดูท่องเที่ยว ( ม.ค.-พ.ค.) จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากและจากการสังเกตุของชาวบ้านโดยเฉพาะเยาวชน จะเห็นว่านักท่องเที่ยวมักชอบสวมใส่เสื้อผ้าสีสดใส ซึ่งผ้าบาติกก็มีสีสันแลสะลวดลายเหมาะกับบรรยากาศชายทะเล
          กลุ่มยุวเกษตรกรอันดามันเป็นกลุ่มเยาวชนที่มีอายุระหว่าง 15-25 ปี ทั้งที่อยู่ในระบบและนอกระบบโรงเรียน ซึ่งทั้งหมดนับถือศาสนาอิสลาม เยาวชนเหล่านี้มีความสนใจในเรื่องการเขียนผ้าบาติกจึงได้ประสานกับสสำนักงานเกษตรอำเภอเมืองเรียนรู้ในด้านนี้
          วันที่ 10 มกราคม พ.ศ.2539 ได้เริ่มดำเนินการจัดตั้งกลุ่มขึ้น โดยมีสมาชิกก่อตั้ง จำนวน 15 คน ปัจจุบันมีสมาชิกจำนวน 30 คน เป็นชาย 10 คน หญิง 20 คน ปัจจุบันกลุ่มตั้งยู่ที่บ้านเลขที่ 34 หมู่ ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ กลุ่มได้รับงบประมาณส่งเสริมอาชีพจากสำนักงานเกษตรอำเภอเมือง เป็นเงินทั้งสิ้น 90,000 บาท มีการบริหารงานในรูปของคณะกรรมการหมู่บ้านและผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน ท่านเป็นที่ปรึกษา





1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ3 พฤษภาคม 2558 เวลา 02:56

    ขอที่อยู่ได้ไหมค่ะ อยากไปเยี่ยมชม หรือเอบร์โทรติดต่อก็ได้ ช่วยยิงเบอร์มาที่ 098 5615613 นะค่ะ

    ตอบลบ