ความเป็นอยู่ของภาคใต้

ความเป็นอยู่ของคนในภาคใต้



ลักษณะภูมิประเทศของภาคใต้โดยทั่วไปเป็นคาบสมุทรแคบ ๆ มีทิวเขาเป็นแกนกลาง  ได้แก่  ทิวเขาตะนาวสรี  ทิวเขาภูเก็ต  ทิวเขานครศรีธรรมราช  และทิวเขาสันกาลาคีรี  ชายฝั่งด้านตะวันออกมีที่ราบกว้างขวางกว่าชายฝั่งด้านตะวันตก  จึงเป็นแหล่งเพาะปลูกที่สำคัญของภาคใต้  แม่น้ำสายสำคัญ  เช่น  แม่น้ำคีรีรัฐ  แม่น้ำตาปี  แม่น้ำปัตตานี  แม่น้ำโก-ลก
          พื้นที่ที่เป็นคาบสมุทรและชายฝั่งทะเลของภาคใต้  ทำให้มีชนชาติต่าง ๆ เดินทางเข้ามาติดต่อค้าขาย  และเข้ามาตั้งถิ่นฐานตั้งแต่ในอดีต  ประชาชนในภาคใต้จึงมีความหลากหลายทางเชื้อชาติ  เช่น  ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตจังหวัดชายแดนภาคใต้  คือ  จังหวัดปัตตานี  นราธิวาส  ยะลา  สงขลา  และสตูล  มีเชื้อสายมาเลเซียและนับถือศาสนาอิสลาม  นอกจากนี้บริเวณชายฝั่ง  และเกาะบางเกาะของภาคใต้ทางด้านตะวันตกมีชาวพื้นเมืองที่เรียกว่า  ชาวเล  หรือชาวน้ำอาศัยอยู่
          การตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ราบ  ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมปลูกพืชที่เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศที่มีฝนตกชุก  เช่น  ปลูกข้าว  เงาะ  มังคุด  กาแฟ  ปาล์มน้ำมัน  ยางพารา  ส่วนประชาชนที่ตั้งถิ่นฐานบริเวณริมฝั่งทะเลจะมีอาชีพประมง
          ภาคใต้เป็นภาคที่มีป่าไม้อุดมสมบูรณ์  ซึ่งส่วนใหญ่เป็นป่าดิบชื้นและป่าชายเลน  แต่การลักลอบตัดไม้ทำลายป่า  รวมทั้งตัดไม้ป่าชายเลนเพื่อพัฒนาเป็นพื้นที่เลี้ยงกุ้ง  ทำให้ป่าไม้ลดจำนวนลง  อาจเกิดปัญหาอุทกภัย  ซึ่งมีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของผู้คน  จึงมีการดำเนินโครงการต่าง ๆ เช่น  โครงการพัฒนาลุ่มน้ำปากพนัง  เพื่อระบายน้ำออกสู่ทะเล  และเก็กกักน้ำไว้ใช้ในฤดูฝน  จากการพัฒนาโครงการดังกล่าวทำให้มีน้ำเพียงพอต่อการเพาะปลูก  จึงมีผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มขึ้น
          นอกจากนี้  การที่ภาคใต้มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความสวยงาม  จึงมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจำนวนมาก  แต่การเปิดพื้นที่ธรรมชาติเพื่อการท่องเที่ยวทำให้พื้นที่ป่าไม้ถูกบุกรุก  เกิดการพัฒนาสิ่งก่อสร้างที่ไม่เหมาะสมกับสภาพธรรมชาติและเกิดปัญหามลพิษตามมา
การสร้างบ้าน

1. เรือนเครื่องผูก

คือเรือนที่ใช้วัสดุต่าง ๆ ประกอบกันเช้ากับโครงสร้างและตัวเรือน โดยการผูกยึดด้วยเชือก เถาวัลย์ วัสดุหลักมักเป็นไม้ไผ่และไม้ยืนต้นขนาดเล็กที่ล้วนแล้วแต่หาได้ ภายในท้องถิ่นมีการปรับแปรวัสดุง่าย เพียงนำมาผูกยึด สอดสานเรียบร้อยเข้าด้วยกันประกอบ กันเป็นเรือน เรือนเครื่องผูกมีขนาดเล็ก ยกพื้นไม่สูงมากนักมีขนาดเล็ก (2 ช่วงเสา) ไม่มีความคง ทนถาวรและให้ความปลอดภัยไม่มากนัก
เรือนไทยภาคใต้บำรุงรักษาและซ่อมแซมได้ง่าย ส่วนประกอบแทบทุกส่วนของ เรือนไทยภาคใต้ และยิ่งเฉพาะเรือนเครื่องผูก เช่น เครื่องมุง เครื่องกั้น พื้นเรือน และแม้แต่โครง สร้างบางชิ้นสามารถถอดเปลี่ยนซ่อมแซมได้เมื่อชำรุดหรือหมดอายุการใช้งาน คนในเรือนช่วยกัน ซ่อมแซมรักษาได้ง่าย รวมทั้งยังปลูกสร้างต่อเติมได้ง่าย คนในครอบครัวอย่างน้อยมีคนที่มีความ รู้ความสามารถเชิงช่างสามารถปลูกสร้างต่อเติมบ้านได้เอง โดยส่วนประกอบต่าง ๆ ไม่เสียหาย
1.1 ภูมิปัญญาในการสร้างเรือนไทยเครื่องผูกของชาวใต้ ปรากฏดังนี้
1.1.1 การใช้ตีนเสาหรือบาทเสา เกิดจากการศึกษาลักษณะธรรมชาติของ ท้องถิ่น เนื่องจากภาคใต้ฝนตกมาก ทำให้ดินชื้นเสาบ้านที่ฝังดินจะ ผุเร็ว ทำให้อยู่อาศัยได้ไม่นาน ประกอบกับมีตัวปลวกคอยกัดกิน เสาบ้าน บางแห่งอาจใช้ตุ่มไหเล็ก ๆ ใส่ทราบให้เต็ม แล้วคว่ำปาก ไหลลงใช้รองรับเสา ต้นเสาจะไม่ผุเมื่อปลวกขึ้นก็ดูแลได้ง่าย
อนึ่ง การใช้ตีนเสาหรือบาทเสา ทำให้เคลื่อนย้ายบ้านได้ง่าย เมื่อไม่ต้องการจะอยู่อาศัย ณ จุดเดิม อาจเป็นเพราะความเชื่อที่ทำ ให้เกิดเจ็บไข้ได้ป่วย ก็จะไหว้วานให้เพื่อนบ้านช่วยหามเรือนไปตั้ง ณ จุดอื่น เกิดสำนวน “ออกปากหามเริน” 

การแต่งกาย

ผ้ายก
การทอผ้ายกนคร มีหลักฐานว่าชาวนครศรีธรรมราชได้แบบอย่างมากจากแขกเมืองไทรบุรี กล่าวคือ คราวที่เมืองไทรบุรีคิดกบฎ เจ้าพระยานคร (น้อย) ได้ยกทัพไปปราบ ขากลับได้กวาดต้อน
 
เชลยเข้ามายังนครศรีธรรมราชเป็นจำนวนมาก ในจำนวนนี้มีพวกช่างทอผ้าเข้ามาด้วย พวกแขกนี้เองที่ได้มาเป็นครูสอนให้วเมืองนครศรีธรรมราชรู้จักทอผ้ายก เครื่องมือเครื่องใช้ทอผ้ายก
 
เรียกว่า 'เครื่องทอหูก' หรือ 'เก' เหมือนกับท้องถ่นอื่นโดยทั่วไป เกมี 2 ชนิด คือ เกยก ชนิดหนึ่งหนึ่ง กับ เกฝังอีกชนิดหนึ่ง ชาวบ้านที่มีอาชีพทอผ้ามักสร้าเกไว้ใต้ถุนบ้านแทบทั้งสิ้น ผ้ายก
 
นครทอได้หลายชนิดแต่ละชนิดมีลายดอกงดงามเป็นแบบฉบับของตนเอง ที่รู้จักกันดีได้แก่ ผ้าราชวัตร ผ้าตาสมุก ผ้า ผ้าห่ม ผ้าหางกระรอก ผ้าพื้น ผ้าเก็บดอก ผ้าม่วง เป็นต้น สำหรับผ้ายกด
 
อกก็มีหลายชนิดเช่น ผ้าลายดอกพิกุล ผ้าลายก้านแย่ง ผ้าลายดอกมะลิร่วง ผ้าลายดอกมะลิใหญ่ ๆ อีกมากมาย ตัวอย่างผ้ายก รุ่นเก่าของนครศรีธรรมราชในปัจจุบันนี้หาดูได้ยากที่พอจะหาดู
 
ได้ในเวลานี้มีอยู่สักฝืนสองฝืนในพิพิธภัณฑ์วัดรพะมหาธาตุวรมหาวิหาร 
อาหารการกินของคนภาคใต้
อาหารพื้นบ้านภาคใต้มีรสชาติโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ สืบเนื่องจากดินแดนภาคใต้ 
เคยเป็นศูนย์กลางการเดินเรือค้าขายของพ่อค้าจากอินเดีย จีนและชวาในอดีต ทำให้วัฒนธรรม 
ของชาวต่างชาติโดยเฉพาะอินเดียใต้ ซึ่งเป็นต้นตำรับในการใช้เครื่องเทศปรุงอาหารได้เข้ามา
มีอิทธิพลอย่างมาก 
อาหารพื้นบ้านภาคใต้ทั่วไป มีลักษณะผสมผสานระหว่างอาหารไทยพื้นบ้านกับอาหารอินเดียใต้ 
เช่น น้ำบูดู ซึ่งได้มาจากการหมักปลาทะเลสดผสมกับเม็ดเกลือ และมีความคล้ายคลึงกับอาหารมาเลเซีย 
อาหารของภาคใต้จึงมีรสเผ็ดมากกว่าภาคอื่น ๆ และด้วยสภาพภูมิศาสตร์อยู่ติดทะเลทั้งสองด้าน 
มีอาหารทะเลอุดมสมบูรณ์ แต่สภาพอากาศร้อนชื้น ฝนตกตลอดปี อาหารประเภทแกงและเครื่องจิ้ม
จึงมีรสจัด ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น ป้องกันการเจ็บป่วยได้อีกด้วย
 
อาชีพต่างๆของภาตใต้
การทำนา
ชาวนาใช้ไถ คราด แอก มีเครื่องมือเก็บเกี่ยวข้าว เช่น แกะ เคียว ตรูด ครกสี ครกสากตำข้าว แสกหาบข้าว กระด้งฝัดข้าว กระด้งมอญ สอบจูดนั่งใส่ข้าวเปลือก คนภาคใต้นิยมใช้แกะเก็บข้าวทีละรวง สามารถเก็บข้าวได้หมด มีหล้อ(เกราะ) แขวนคอวัวควาย เสียงหล้อดังเป็นการแสดงตำแหน่งที่อยู่ 

การทำสวนยางพารา
เครื่องมือมีถ้วยหรือพรกยาง มีดตัดยาง ตะเกียงแก๊ส หินลับมีด หมวก ถังน้ำยาง รางยาง จักรรีดยาง น้ำยาฆ่ายาง ชาวสวนจะตื่นตั้งแต่ตี 2 - 3 ออกกรีดยาง ตอนย่ำรุ่งอากาศเย็นสบายน้ำยางจะไหลออกมา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น